Privacy Policy

Navigation

นโยบาย คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (ลูกค้า คู่ค้า ผู้มีส่วนได้เสียและพันธมิตรทางธุรกิจ)
  • 1. วัตถุประสงค์ในการจัดเก็บรวบรวม ใช้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
        บริษัทฯ จะดำเนินการจัดเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นสำหรับการดำเนินธุรกิจ ภายใต้วัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้อง อาทิ เช่น เพื่อการปฏิบัติงานภายในการค้าและบริการการเสนอขายสินค้า การจัดซื้อจัดจ้าง การสื่อสาร ทางการตลาด พัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการ การวิเคราะห์ข้อมูล การปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อมูลทางการบัญชีการเงิน ภาษี การบริหารงานทรัพยากรบุคคล อาชีวอนามัยและความปลอดภัย และการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ระบบสารสนเทศ ทรัพย์สิน และบุคคลเป็นต้น
        โดยบริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์หลักดังต่อไปนี้
        1. เพื่อประโยชน์ในการจัดหาหรือจาหน่ายผลิตภัณฑ์ การให้หรือรับบริการในรูปแบบต่างๆ
        2. เพื่อการทำธุรกรรมทางการเงิน และภาษี ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามสัญญาของบริษัทฯ
        3. เพื่อการค้นคว้าการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์
        4. เพื่อจัดทำฐานข้อมูลสำหรับการวิเคราะห์และนำเสนอบริการหรือผลิตภัณฑ์ใดๆ ของบริษัทฯ และบริษัทฯ ในกลุ่ม หรือบุคคลที่เป็นผู้จำหน่าย เป็นตัวแทน หรือมีความเกี่ยวข้องกับบริษัทฯ
        5. พื่อปรับปรุงคุณภาพในการดำเนินงาน การให้บริการและการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัทฯ
        6. เพื่อการวิเคราะห์และติดตามการใช้บริการทางเว็บไซต์ และวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบย้อนหลังในกรณีที่เกิด ปัญหาการใช้งาน
        7. เพื่อการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆของบริษัทฯ
        8. เพื่อวัตถุประสงค์ในการควบคุมการเข้าถึง การป้องกันโรคติดต่อและเพื่อประโยชน์ในการดูแลรักษาความ ปลอดภัย ของบริเวณนอกอาคาร ภายในอาคาร และพื้นที่ของบริษัทฯ
        9. เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎระเบียบที่ใช้บังคับกับบริษัทฯ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต
        10. เพื่อประโยชน์อันชอบธรรมตามกฎหมายที่จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยยังคานึงถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของท่านไม่เหนือไปกว่าผลประโยชน์ของบริษัทฯ
        ทั้งนี้หากภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ จะแจ้งให้ทราบ และดำเนินการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงจัดให้มีบันทึกการแก้ไขเพิ่มเติมไว้เป็นหลักฐาน
  • 2. บทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบ
        บริษัทฯ กำหนดให้พนักงานและผู้เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลตระหนักและให้ความสำคัญ และรับผิดชอบต่อการเก็บรักษา รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายมาตรการและนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด หากมีผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินงานละเลย หรือเพิกเฉยไม่ดำเนินการใดๆ อันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามนโยบายหรือกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทำให้เกิดความเสียหายต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือเป็นเหตุให้เกิด ความผิดตามกฎหมาย ผู้นั้นจะได้รับโทษทางวินัยตามกฎระเบียบข้อบังคับและรับโทษทางกฎหมายตามพระราชบัญญัติว่าด้วยกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • 3. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
    บริษัทฯ อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงที่ได้ให้ไว้จากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมาติดต่อกับบริษัทบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลดังนี้
        1. จากความสมัครใจในการส่งคาร้องขอเพื่อให้บริษัทฯพิจารณาตามคำร้อง เช่น การสั่งผลิตภัณฑ์ การซื้อขายสินค้าผลิตภัณฑ์ การเจรจาต่อรอง ข้อมูลเครดิต ข้อมูลทางการค้า การทาธุรกรรมคู่สัญญา
        2. จากการที่ติดต่อกับบริษัทฯตามช่องทางการสื่อสารต่างๆ ระหว่างบริษัทฯ
        3. จากข้อมูลการใช้เว็บไซต์ของบริษัทฯ ผ่าน browser’s cookies
        4. จากการทำแบบสารวจ การร่วมกิจกรรมต่างๆ
        บริษัทฯได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลภายนอก ซึ่งมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยชอบด้วยกฎหมายรวมถึงตัวแทนและผู้รับจ้างช่วง โดยได้รับข้อมูลผ่านทางอีเมลทางโทรศัพท์ ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์หรือได้รับเอกสารซึ่งผู้ที่เปิดเผย มีสิทธิให้ข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยชอบโดยกฎหมาย
  • 4. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
        บริษัทฯ จะจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นภายใต้วัตถุประสงค์หรือเพื่อประโยชน์ที่มีความ เกี่ยวข้องผ่านช่องทางต่าง ๆ โดยเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งได้ติดต่อกับบริษัทฯ เช่น การติดต่อสอบถาม การขอข้อมูล การกรอกแบบฟอร์ม แบบสอบถาม การแสดงความคิดเห็น การเข้า-ออก พื้นที่ การซื้อขายสินค้าและผลิตภัณฑ์ของ บริษัทฯ เป็นต้น
        การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ประกอบด้วย ข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน ข้อมูลส่วนบุคคลลูกค้า ผู้ถือหุ้น ผู้ขาย ผู้ส่งมอบ ผู้รับเหมาช่วง พันธมิตรทางธุรกิจ หรือบุคคลผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคล รวมถึงผู้มาติดต่อหรือเยี่ยมชม โดยข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป ประกอบไปด้วย
        1. ข้อมูลสำหรับการติดต่อ เช่น ที่อยู่หมายเลขโทรศัพท์ ข้อมูลการติดต่อทางโซเชียลมีเดีย และรายละเอียดของบุคคลที่ติดต่อกรณีฉุกเฉิน เป็นต้น
        2. ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด อายุ เพศ รูปถ่าย สำเนาบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง ลายมือชื่อ ข้อมูลเกี่ยวกับการเงิน หมายเลขบัญชี และข้อมูลเกี่ยวกับภาษีอากร
        3. ข้อมูลการใช้งานและการเข้าถึงระบบสารสนเทศ คอมพิวเตอร์ ระบบงาน แอปพลิเคชัน ระบบโครงข่าย อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ระบบ เว็บไซต์รวมถึงการใช้คุกกี้เก็บข้อมูลเพื่อปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ และเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศของกลุ่ม และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
        4. ข้อมูลรูปถ่ายหรือภาพเคลื่อนไหว
        5. ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการรายงานหน่วยงานที่กำกับดูแลตามกฎหมาย เช่น กระทรวงแรงงาน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ฯลฯ
        6. ข้อมูลอื่นที่จำเป็นต่อการปฏิบัติตามสัญญาจ้างแรงงาน สัญญาบริการ และสัญญาอื่นที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมของบริษัทฯ การขึ้นทะเบียนผู้ขาย จัดการสินค้าหรือบริการ การชำระเงิน การเก็บเงิน หรือการจ่ายเงิน รวมถึงวัตถุประสงค์ทางบัญชีและการจัดการทางบัญชี การขนส่งสินค้าการดูแลสิทธิประโยชน์ สวัสดิการ การบริหารงานทรัพยากรมนุษย์ต่าง ๆ เพื่อสอดคล้องกับการปฏิบัติตามกฎหมาย
        7. เพื่อการบริหารจัดการความมั่นคงความปลอดภัย การบริหารความเสี่ยงของ เช่น การตรวจ ATK การตรวจสอบสารเสพติด การตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ ของบุคลากรของผู้รับเหมา คู่ค้า หรือผู้ให้บริการ เพื่อป้องกันอาชญากรรม และบริหารจัดการความปลอดภัยของ เช่น ติดตั้งกล้องวงจรปิดภายใน และโดยรอบ ซึ่งอาจมีการเก็บภาพ ภาพเคลื่อนไหว และเสียงของท่าน การแลกบัตรผ่านเข้า-ออก เป็นต้น
  • 5. การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
        บริษัทฯ จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อการทำงาน ประโยชน์โดยชอบธรรมตามกฎหมาย การดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เพื่อให้ได้รับบริการที่ดีมีประสิทธิภาพบริษัทฯ จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลให้ เป็นไปตามกฎหมายและกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง หรือเพื่อปรับปรุงบริการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อพัฒนา มาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศในการบริหารจัดการความเสี่ยง ป้องกันกิจกรรมที่มีแนวโน้มในการละเมิด กฎหมาย ระเบียบการใช้งานที่เกี่ยวข้องหรือข้อตกลง เงื่อนไขการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทฯ รวมถึงการติดต่อผ่านทางโทรศัพท์ ข้อความ (SMS) หรือไปรษณีย์ หรือผ่านช่องทางใดๆ เพื่อสอบถาม หรือแจ้งให้ทราบ หรือตรวจสอบ และยืนยันข้อมูล หรือสำรวจความคิดเห็น หรือแจ้งข้อมูลข่าวสารอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ และการให้ข้อมูลของบริษัทฯ ตามที่จำเป็น
  • 6. หน้าที่ของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (คู่ค้า, ลกค้า, ผู้ขาย, ผู้ส่งมอบ, ผู้รับเหมาช่วง, ผู้มีส่วนได้เสีย)
        1. ปฏิบัติตามนโยบายนี้ และสัญญารักษาความลับที่ได้ตกลงไว้กับบริษัทฯ โดยการได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ หรือที่บริษัทฯ ควบคุมดูแลอยู่นั้น และปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562
        2. ดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งที่ได้รับจากผู้ควบคุมของส่วนบุคคลนั้น เว้นแต่เป็นคำสั่งที่ขัดต่อกฎหมายนี้
        3. จัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึงใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิด เผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ รวมทั้งแจ้งให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงเหตุการณ์ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
        4. จัดทำและเก็บรักษาบันทึกรายการของกิจกรรมการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลไว้ตามหลักเกณฑ์และ วิธีการที่คณะกรรมการประกาศกำหนด
        5. ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งไม่ปฏิบัติตามข้อ 6.1 สำหรับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลใด ให้ถือว่าผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ซึ่งต้องรับผิดชอบเช่นเดียวกับการเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
  • 7. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
        บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ผู้อื่นภายใต้ความยินยอมหรือภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายอนุญาตเปิดเผยได้ โดยบุคคลหรือหน่วยงานที่เป็นผู้รับข้อมูลดังกล่าวจะเก็บรวบรวมและ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลใช้ ตามขอบเขตที่ได้ให้ความยินยอมหรือขอบเขตที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ และตามกฎหมายกำหนดเท่านั้น
  • 8. การจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลและระยะเวลาในการจัดเก็บ
        บริษัทฯ มีการจัดเก็บในรูปแบบเอกสาร และ/หรือข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ จัดเก็บในรูปแบบเอกสาร จัดเก็บ ณ สถานที่ที่มีการจำกัดสิทธิการเข้าถึงและ/หรือ Server เก็บไว้ในและ/หรือ เก็บไว้บน Cloud ที่เป็นผู้ให้บริการ โดยบริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้ตามระยะเวลาที่จำเป็นในระหว่างที่เป็นลูกค้าหรือมีความสัมพันธ์อยู่กับบริษัทฯ หรือตลอดระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ ซึ่งอาจจำเป็นต้องรักษาไว้ต่อไปภายหลังจากนั้นหากมีกฎหมายกำหนดหรืออนุญาตไว้ เช่น จัดเก็บไว้ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน จัดเก็บไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์ตรวจสอบ กรณีอาจเกิดข้อพิพาทในอายุความ ตามที่กฎหมายกำหนด เป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี โดยบริษัทฯ จะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนได้เมื่อหมดความจำเป็นหรือสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว
  • 9. มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
        บริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ กำหนดให้มี มาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับการรักษาความลับ ของข้อมูลส่วนบุคคล การป้องกันการเข้าถึง หรือการแก้ไขข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยใช้วิธีการเข้ารหัสและ/หรือจำกัดการเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว รวมทั้งได้จำกัดสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล จากพนักงาน ลูกจ้าง และตัวแทนของบริษัทฯ ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง การทำลาย การใช้ แก้ไขหรือเปิดเผย โดยไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
  • 10. การจัดการกรณีข้อมูลรั่วไหล (Recall)
        ให้ความสำคัญในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลและด้านสารสนเทศ รวมถึงการ บริหารจัดการข้อมูลรั่วไหลในกรณีที่ตรวจพบว่าความปลอดภัยในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ได้ถูกบุกรุก หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้จัดเก็บไว้ถูกเปิดเผยต่อบุคคลที่สามที่ไม่เกี่ยวข้องอันเป็นผลมาจากกิจกรรม ไม่จำกัดเพียง การโจมตีด้านความปลอดภัยของข้อมูล ข้อมูลรั่วไหล การเปิดเผยข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือการฉ้อโกง ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการใช้มาตรการที่เหมาะสม ในการสอบสวนและการรายงานผลตลอดจนการแจ้ง เตือนและให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย 72 ชั่วโมงนับตั้งแต่ทราบถึงการรั่วไหลของข้อมูลภายใน บริษัทฯ จะใช้ความพยายามตามความเหมาะสมในการแจ้งเตือนบุคคลที่ได้รับผลกระทบหรือผลที่อาจจะเกิดขึ้นจากการที่ข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล ซึ่งรวมถึงความเสี่ยง ต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อรับมือกับกรณีดังกล่าว ซึ่งอาจจะลดผลกระทบ อันเกิดจากข้อมูลรั่วไหล โดยมาตรการดังกล่าว ปฏิบัติภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • 11. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
        บริษัทฯ ดำเนินการรวบรวม จัดเก็บ ใช้ เผยแพร่ หรือดำเนินการอื่นใดเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลโดยชอบด้วย กฎหมายภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการดำเนินการดังต่อไป
        1. สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม
        2. สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
        3. สิทธิในการส่งหรือโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล
        4. สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
        5. สิทธิในการขอลบข้อมูลส่วนบุคคล
        6. สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
        7. สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง
        8. สิทธิในการร้องเรียน
  • 12. นโยบาย คุกกี้
        “คุกกี้” Cookies หมายถึง ไฟล์คอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ที่จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวที่จำเป็นในคอมพิวเตอร์ของเจ้าของข้อมูล เพื่อสะดวกและรวดเร็วในการติดต่อสื่อสารซึ่งมีผลในขณะที่เข้าใช้งานเว็บไซต์เท่านั้นเมื่อเข้าสู่เว็บไซต์ www.anwill.com ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเข้าสู่เว็บไซต์ จะถูกเก็บเอาไว้ในรูปแบบของ คุกกี้ โดยนโยบาย คุกกี้ นี้จะอธิบายถึงความหมาย การทำงาน วัตถุประสงค์ รวมถึงการลบและการปฏิเสธการเก็บคุกกี้ เพราะความเป็นส่วนตัว โดยการเข้าสู่เว็บไซต์นี้ถือว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้อนุญาตให้บริษัทฯ ใช้นโยบายคุกกี้
    โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้
        1. เพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถ sign in บัญชีของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลใน website ของบริษัทฯ ได้อย่างต่อเนื่อง
        2. เพื่อศึกษาพฤติกรรมการใช้งาน website ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อไปพัฒนาให้บริการความพึงพอใจและปรับปรุงการใช้งานให้สามารถใช้งานได้ง่าย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
  • 13. การเปลี่ยนแปลง ทบทวนนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
        บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการทบทวน เพิ่ม เปลี่ยนแปลง หรือปรับปรุงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ได้ในอนาคต เพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติและกฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของการให้บริการ และการดำเนินงาน เพื่อความเหมาะสมและประสิทธิภาพ ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
        ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใดๆให้ท่านทราบผ่านเว็บไซต์ของบริษัทฯ จะแจ้ง บริษัทฯ ประกาศของบริษัทฯ โดยเร็วที่สุดโดยสามารถเข้าถึงและศึกษารายละเอียดนโยบายและแนวปฏิบัติคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ (Privacy Policy) ทุกครั้งที่ใช้บริการ
  • 14. ช่องทางการติดต่อเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    หากท่านมีคำถามใดๆ เกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้
    ท่านสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ คณะทำงานกำกับดูแลการปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัท แอนวิล (ไทย) จำกัด
    เลขที่ 43 ซอยพระรามที่ 2 ซอย 54 แยก 4 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10150
    โทรศัพท์ 02-899-9414 ใน วัน-เวลาทำการ วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00-18.00 น.
    เว็บไซต์ : www.anwill.com Email : anwill@anwill.com
"Your Partner in UV Technology."